เมื่อมีรถ ก็มักจะมีค่าใช้จ่ายตามมาเสมอ และหนึ่งในนั้นก็คือค่าประกันรถยนต์ที่จะต้องต่อเป็นประจำทุกปี สำหรับใครที่อยากทำประกันรถยนต์ หรือกำลังจะต่อประกันรถยนต์ วันนี้เรามีอีกหนึ่งทางเลือกมาแนะนำ ซึ่งถือเป็นประกันรถยนต์ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว นั่นก็คือประกันรถยนต์ประเภท 4 และประเภท 5 มาดูกันว่าประกันรถยนต์ทั้ง 2 ประเภทนี้ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง?
โดยทั่วไปประกันรถยนต์ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ นั่นก็คือ
ประกันรถยนต์ภาคบังคับ (Compulsory Third Party Insurance) : เป็นประกันรถยนต์ ตามความคุ้มครองที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กำหนดไว้ นั่นก็คือการประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือที่ถูกเรียกจนชินปากกันว่า “ประกัน พ.ร.บ.” นั่นเอง หากเจ้าของรถไม่ทำประกันภาคบังคับนี้จะมีโทษตามกฎหมาย (ปรับไม่เกิน 10,000 บาท)
ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ (Voluntary Motor Insurance) : เป็นประกันรถยนต์ที่เกิดขึ้นโดยความสมัครใจของผู้ขับขี่ กฎหมายไม่ได้บังคับ เพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวรถ หรือความรับผิดของผู้เอาประกันภัยที่มีต่อบุคคลภายนอก
ซึ่งประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ จะมีให้เลือกด้วยกันหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือ ประกันรถยนต์ประเภท 4 และประกันรถยนต์ประเภท 5
ประกันรถยนต์ประเภท 4 คืออะไร?
ประกันรถยนต์ประเภท 4 หรือที่เรียกอีกอย่างว่า กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก โดยจะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกเท่านั้น ไม่รวมการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตต่อบุคคลภายนอก
ประกันรถยนต์ประเภท 4 คุ้มครองอย่างไรบ้าง?
อย่างที่บอกว่าประกันรถยนต์ประเภท 4 จะให้ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอกเท่านั้น โดยคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาทต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้งประกันรถยนต์ประเภท 4 เหมาะกับ : ผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้งานรถยนต์ หรือมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุน้อยมากๆ รวมถึงผู้ที่ต้องการประหยัดเบี้ยประกันรถยนต์ด้วย
ประกันรถยนต์ประเภท 5 คืออะไร?
ประกันรถยนต์ประเภท 5 เป็นประกันภัยรถยนต์แบบคุ้มครองเฉพาะภัย ที่ถูกเพิ่มขึ้นมาภายหลัง ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ คือ ประกันรถยนต์ 2+ และ ประกันรถยนต์ 3+ประกันรถยนต์ประเภท 5 คุ้มครองอย่างไรบ้าง?
การคุ้มครองก็จะแบ่งออกตามรูปแบบของประกัน เช่นเดียวกัน
ประกันรถยนต์ 2+
- รับผิดต่อความเสียหายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
- รับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก หรือ ยานพาหนะคู่กรณี
- รับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบก
- ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
- ค่ารักษาพยาบาล
- คุ้มครองการประกันตัวผู้ขับขี่
- คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ประกันรถยนต์ 3+
- รับผิดต่อความเสียหายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
- รับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก หรือ ยานพาหนะคู่กรณี
- รับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบก
- ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
- ค่ารักษาพยาบาล
- คุ้มครองการประกันตัวผู้ขับขี่
สังเกตได้ว่า ประกันรถยนต์ 2+ จะให้ความคุ้มครองมากกว่าเพราะประกันรถยนต์ 3+ จะไม่ครอบคลุมกรณีไฟไหม้ และมีวงเงินความคุ้มครองที่น้อยกว่า
ประกันรถยนต์ประเภท 5 เหมาะกับ : สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความคุ้มค่า แต่ไม่อยากจ่ายเบี้ยประกันสูงๆ ซึ่งประกันรถยนต์ประเภท 5 เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมพอสมควรเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นรถเก่า รถใหม่ เป็นรถที่ถูกใช้งานทุกวัน หรือรถที่จอดทิ้ง ก็ควรทำประกันรถยนต์ติดเอาไว้ เพื่อความอุ่นใจ และยังเป็นหลักประกันในการขับขี่ เพราะคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ หากมองว่าการทำประกันรถยนต์เป็นสิ่งสิ้นเปลือง ไม่คุ้มค่า ลองเลือกประเภทของประกันรถยนต์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ของคุณ จะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าได้มากเลยที่เดียว ที่สำคัญแนะนำให้ทำประกันรถยนต์กับ Rabbit Care ที่รับประกันเรื่องความคุ้มค่า ด้วยราคาเบี้ยที่ถูกที่สุด เจอราคาถูกกว่า เราคืนส่วนต่างให้ทันที ภายใต้เงื่อนไขของบริษัทเดียวกัน สนใจทำประกันรถยนต์ หรือประกันชนิดอื่นๆ เข้าไปที่ www.rabbitcare.com